
แรงบันดาลใจในการเรียนและสอบภาคบังคับของคุณคืออะไร?
สำหรับบางคน มันอาจเป็นความคิดซับซ้อนหลายขั้นตอน อย่างเช่น "รีบสอบให้ผ่านตั้งแต่ปีนี้ ปีหน้าจะได้ไปสมัครเรียน/ทำงานสายที่ชอบ มีรายได้ที่พอใจ ไม่ต้องรบกวนคนที่่บ้านบ่อย ๆ"
หรืออาจจะเป็นความคิดที่แอบกดดันตัวเอง ที่ว่า "เมื่อไหร่จะฟังพ่อปู่แม่ย่าหรือเพื่อนที่ทำงานได้เข้าใจซะทีนะ แล้วเมื่อไหร่เราจะโต้ตอบคนอื่นได้แบบที่คิด"
แต่สำหรับหลาย ๆ คน มันอาจเป็นแค่การเคาะที่หน้าผากแล้วเตือนตัวเองง่าย ๆ ว่า "เวลาบังคับแค่ 3 ปี และค่าปรับก็แพงด้วย รีบสอบให้ผ่านเถอะ"
เหตุผลที่แตกต่าง ยอมส่งผลกระทบต่อใจเราในระดับความรุนแรงที่ต่างกันออกไป เพราะแรงบันดาลใจไม่ได้มาจากสิ่งกระตุ้นภายนอกเพียงอย่างเดียวเท่านั้น หากแต่ส่วนประกอบที่สำคัญที่สุดของพลังใจคือ "ความต้องการในผลลัพธ์นั้น" ที่เราจะต้องสร้างขึ้นมาด้วยตัวเอง
พูดอีกอย่างก็คือ ต่อให้คุณเข้าไปอยู่ในกลุ่มแวดล้อมที่มีคนตั้งใจเรียนและสอบผ่านไม่เว้นวัน หรือคุณจะไปสนทนาธรรมกับไอดอลคนโปรดเกี่ยวกับการเรียนการสอบ แต่ถ้าหากว่าตัวคุณเองไม่ได้ "อยาก" มีความต้องการที่จะ "เรียน" "ฝึกฝน" และ "สอบให้ผ่าน" เป็นทุนเดิมอยู่แล้ว มันก็ยากที่คุณจะประสบความสำเร็จอย่างที่คาดหวังได้
แต่เห็นแบบนี้แล้วก็อย่าเพิ่งท้อหรือคิดว่าตัวเองหมดหนทาง เพราะยังมีอีกสิ่งหนึ่ง ที่อาจพอช่วยเติมเชื้อไฟหรือจุดติดแรงบันดาลใจให้คุณได้ นั่นคือ "การทดสอบตัวเอง"
การทดสอบตัวเอง จะช่วยสะท้อนสภาพความเป็นจริงที่เกิดขึ้นในหัวของเราค่ะ นั่นคือความรู้ความเข้าใจ ความสามารถทางทักษะต่าง ๆ ที่เราได้เรียนรู้มา เมื่อเรานำสิ่งเหล่านี้ออกมาใช้ในการทดสอบตัวเอง ผลลัพธ์ที่ได้ ก็คือความเป็นจริงที่จะบอกได้ว่าความสามารถของเราอยู่ที่ระดับไหนแล้ว และเรายังอาจมองเห็นศักยภาพของตัวเองได้ชัดเจนยิ่งขึ้น (ถ้าหากเราไม่วิ่งหนีความจริง) นำไปสู่การต่อยอด พัฒนาทักษะต่าง ๆ ให้สอดคล้องกับวัตถุประสงค์การใช้ภาษาของเราต่อไปได้
ตัวอย่างการทดสอบตัวเอง อาจจะมีหน้าตาเป็นแบบนี้:
- การถามตัวเองว่าเข้าใจสิ่งที่ได้ยินหรืออ่านมากน้อยแค่ไหน
- การฝึกจำคำศัพท์กับตัวเอง ลองแบ่งหน้ากระดาษเป็น 2 ฝั่ง เขียนคำดัตช์และคำไทยคนละฝั่ง ฝึกปิดทีละด้านแล้วทดสอบความจำตัวเอง
- การฝึกเขียนตามคำบอกโดยข้อให้คนที่บ้านช่วยอ่านคำภาษาดัตช์ให้ฟัง
- การสังเกตสีหน้าของคนดัตช์ที่ฟังเราพูดดัตช์ และสิ่งที่เขาพูดกลับมา เขาฟังเราไม่ออกเลย หรือเขาพูดชมเรา (ฝึกพูดต่อไปจนกว่าคนดัตช์จะโต้ตอบกับเราโดยไม่พูดชม เพราะนั่นแปลว่าเราพูดดัตช์ได้ชัดเจนและสื่อความได้ดีแล้ว)
- การทำแบบฝึกหัดในหนังสือเรียน แล้วตรวจคำตอบหรือให้ครูช่วยตรวจให้พร้อมรับคำติชมเพื่อนำไปปรับปรุง
- การทำข้อสอบฝึกหัด (oefenexamen) ที่เว็บไซต์ของ DUO (คลิก) ซึ่งมีรูปแบบเหมือนกับข้อสอบจริง ทั้งจำนวนข้อสอบและการจับเวลาทำข้อสอบ วิธีนี้จะช่วยให้เราเห็นภาพได้ชัดเจนขึ้น ว่าสมองของเรามีปฏิกิริยากับความกดดันเรื่องเวลามากน้อยแค่ไหน เราจะได้รู้ว่าตัวเองจะยังสามารถจดจำและคิดวิเคราะห์ได้เหมือนเดิมมั้ย เมื่ออยู่ภายใต้แรงกดดันของเวลา ถ้าหากว่าเราทำผลงานออกมาได้แย่กว่าที่คาดหวังไว้ ก็เป็นไปได้ว่า เราควรที่จะฝึกทำแบบฝึกหัดข้างนอกแบบจับเวลาทำไปด้วย หรือฝึกพูดแทรกกับเสียงทีวีวิทยุไปด้วย เป็นต้น
แต่ถ้าหากว่าการทำข้อสอบฝึกหัดและผลลัพธ์ที่น่าผิดหวัง ก็ยังไม่สามารถกระตุ้นให้เราตื่นตัวและอยากพัฒนาตัวเองได้... การลงสนามสอบจริง ก็อาจเป็นคำตอบสุดท้าย
- การสมัครสอบเพื่อทำข้อสอบจริง จ่ายเงินจริง รอผล(นาน)จริง ได้ไปรับบรรยากาศในห้องสอบจริง ๆ หลายคนอาจชอบแบบนี้ และรู้สึกมีแรงกระตุ้นให้ขุดเอาความสามารถจริง ๆ ของตัวเองมาใช้ทั้งหมด และเมื่อได้ผลลัพธ์ออกมา นั่นคือความจริง "ที่จริงที่สุด" ที่สะท้อนความสามารถของพวกเขา ซึ่งถ้ามันออกมาแย่มาก ๆ มันก็อาจช่วยทำให้พวกเขาเกิด "ความอยาก" ที่จะพัฒนาตัวเองเพื่อให้หลุดพ้นจากแรงกดดันจากความเสี่ยงต่อการสอบเสร็จไม่ทันเวลาหรือการถูกปรับ และเกิดเป็นแรงบันดาลใจให้กลับมาพยายามตั้งใจเรียนได้ในที่สุด
เราทุกคนต่างก็รู้ดีอยู่แล้วว่า การสอบภาคบังคับเป็นสิ่งสำคัญ แต่ไม่ใช่ทุกคนที่จะมีแรงใจในการเรียนและฝึกฝนได้จนตลอดรอดฝั่ง และพวกเขาไม่ได้อ่อนแอ เพราะพลังใจของแต่ละคนในแต่ละวันล้วนหมดไปกับเรื่องที่แตกต่างกัน โดยมันอาจจะเป็น "ภาระ" ที่พวกเขาแบกเอาไว้ ไม่ว่าจะเป็น การส่งเสียครอบครัวที่ไทย การตอบสนองกิเลสส่วนตัว หรือหน้าที่แม่-ภรรยาแบบเต็มเวลาที่ริดรอนกำลังกายและใจจนหมดไปในแต่ละวัน แต่สิ่งที่มองข้ามไม่ได้อีกอย่างหนึ่งก็คือ การขาดแรงสนับสนุนจากคู่ครองเจ้าของภาษา ทั้งในแง่การเงินและการช่วยเหลือฝึกซ้อม ความเหนื่อยกายและใจเหล่านี้เอง ที่อาจทำให้หลายคนหมดแรงที่จะโฟกัสกับเรื่องสำคัญที่อาจจะดู "ไกลตัว" อย่างการสอบภาคบังคับภายใน 3 ปีและการเสียค่าปรับที่จะตามมา
บทความนี้ ไม่ได้ต้องการตัดสินใครจากปัญหาสถานการณ์ส่วนตัว เพราะชีวิตแต่ละคนไม่เหมือนกัน แต่บทความนี้ต้องการที่จะนำเสนอทางเลือกในการนำพาตัวเองออกจากวังวนการเรียนแบบเรื่อย ๆ ไปสู่การทบทวนตัวเองตามสภาพความเป็นจริง และไม่ว่าความจริงนั้นจะดูแย่แค่ไหน เราจะไม่วิ่งหนีมัน แต่เราจะนำเอาความจริงนั้นมาผนวกเข้ากับแรงกดดันในปริมาณที่พอดี และสร้างเป็นแรงบันใจในการเรียนของเราขึ้นมา
สภาพแวดล้อมที่ส่งเสริมการเรียนอาจพอช่วยได้ และเรามีหน้าที่ในการสร้างสภาพแวดล้อมนั้นขึ้นมาเอง แต่ส่วนประกอบที่สำคัญที่สุดของแรงบันดาลใจคือการทำให้ตัวเอง "ต้องการ" ผลลัพธ์ของความสำเร็จนั้น ๆ ทุกอย่างเริ่มที่ตัวเอง สิ่งเกิดขึ้นไปแล้ว สิ่งที่เป็นอยู่ และสิ่งที่กำลังจะตามมา ล้วนเกิดจากการตัดสินใจของเราเองทั้งสิ้น
มองตัวเองตามความเป็นจริง แล้วตัดสินใจทำสิ่งที่สมควรทำ ในทุก ๆ วัน
Reactie plaatsen
Reacties